นิยามที่ดีที่สุด
อีกะหรี่

"กะหรี่"มาอย่างไร? ทำไมถึงเรียกแบบนี้… ผู้รับจ้างทำชำเราแก่บุรุษเพศ?

สังคมไทยเวลาต้องการด่าใครให้เจ็บแสบ มักใช้คำว่า "กะหรี่" เป็นวลีเด็ด
เพราะเป็นคำที่สามารถใช้กระชากหน้ากากของคนที่ไม่เพียงแต่ขายตัว
หากยังขายศักดิ์ศรี และขายวิญญาณ

อันที่จริงคำว่า "กะหรี่" นั้น ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
เคยเรียกขานหญิงบริการว่าเป็นอาชีพ "รับจ้างกระทำชำเราแก่บุรุษ"

ตรรกะวิบัติของคำว่า "กะหรี่"

ปริศนาที่คนทั่วไปสงสัยคือ นิยามของคำว่า "กะหรี่" นั้น
ตกลงหมายถึงอะไรกันแน่ เป็นอาชีพหนึ่งของผู้หญิงขายบริการทางเพศ
หรือว่าหมายถึง "การเสียตัวเสียสาวให้กับผู้ชาย"

เพราะปัจจุบัน เมื่อมีข่าวชู้สาวคาวโลกีย์ของผู้หญิงกับผู้ชาย
มักมีคนเข้าไปคอมเมนต์ว่า "อีกะหรี่" บางทีด่าว่า "อีลูกกะหรี่"

ประหนึ่งว่า
"กะหรี่"คำนี้ได้ถูกแปลงความหมายใหม่ให้กลายเป็นคำเดียวกันกับคำว่า
"ดอกทอง" "สำส่อน" "แพศยา" "ไร้ยางอาย" "มั่วโลกีย์"

ถ้าเช่นนั้น ผู้หญิงทั้งโลกที่เคยมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่ากับใครก็ตาม
ทั้งรัก-ไม่รัก ก่อนแต่ง-หลังแต่ง ผัวเดียว หรือหลายผัว
มิต้องกลายเป็น "กะหรี่" กันถ้วนหน้า ดอกรึ


ถ้าเช่นนั้น "กะหรี่" มาจากไหน

ข้อสันนิษฐานที่ราชบัณฑิตท่านหนึ่ง คืออาจารย์จำนงค์ ทองประเสิรฐ เสนอไว้
เห็นว่า "กะหรี่" น่าจะแผลงมาจาก "ช็อกกะรี" ของภาษาฮินดี
ที่ใช้เรียกเด็กผู้หญิงว่า "โฉกกฬี" (Chokari) และเรียกเด็กผู้ชายว่า "ช็อกกะรา" หรือ "โฉกกฬา" (Chokara)

การเรียกหญิงโสเภณีว่า "โฉกกฬี" หรือ "ช็อกกะรี" นั้น
น่าจะเป็นทำนองเดียวกันกับที่มีการเรียกหญิงบริการอย่างหยอกเย้าว่า "อีหนู" นั่นเอง

คำเรียก "อีหนู" ด้วยคำว่า "โฉกกฬี" หรือ "ช็อกการี"
แล้วแผลงเป็น "กะหรี่" ในภาษาไทยนั้น เข้ามาได้อย่างไร และมีตั้งแต่เมื่อไหร่
ยังไม่มีนักภาษาศาสตร์คนไหนระบุคำตอบแน่ชัด แต่คิดว่าไม่เกินศตวรรษที่ผ่านมา

#กะหรี่ #อีกะหรี่ #อีลูกกะหรี่