"แฉะ"
[ คำกริยา ] เปียกหรือชุ่มน้ำอยู่เสมอ เปียกหรือชุ่มน้ำเกินไป
นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ในความหมายว่า ไม่รีบร้อน เฉื่อยชา
อาการ "แฉะ" คืออะไร เกิดขึ้นเพราะอะไร
เฉพาะเวลา "มีอารมณ์ทางเพศ" เท่านั้นจริงไหม?
อาการ "แฉะ" หรือ ความชุ่มชื้นที่เกิดขึ้นบริเวณอวัยวะเพศหญิง
เป็นอาการที่พบได้บ่อยปกติ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลเสมอไป
หลายคนอาจเข้าใจว่าอาการนี้เกิดขึ้นเฉพาะในเวลาที่ "มีอารมณ์ทางเพศ"
แต่ในความจริงแล้วมันสามารถุเกิดได้จากอีกหลายสาเหตุ
ซึ่งบางครั้งก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการ "มีอารมณ์ทางเพศ"
สาเหตุของอาการ "แฉะ"
[ 1 ] การ "มีอารมณ์ทางเพศ"
เมื่อร่างกายมีการตอบสนองทางเพศ การหลั่งสารหล่อลื่นในช่องคลอดจะเพิ่มขึ้น
เป็นผลจากการกระตุ้นระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกทางเพศ
เพื่อให้การมี "เพศสัมพันธ์" เป็นไปอย่างราบรื่น
[ 2 ] การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
ในช่วงรอบเดือนของผู้หญิง ระดับฮอร์โมนจะเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
โดยเฉพาะในช่วงไข่ตก (Ovulation) ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่สูงขึ้น
ทำให้มีการผลิต "น้ำหล่อลื่น" ใน "ช่องคลอด" มากขึ้น
ซึ่งอาจทำให้มีความชุ่มชื้นที่รู้สึกได้ชัดเจน
[ 3 ] การตั้งครรภ์
ในช่วงตั้งครรภ์ ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้น
อาจทำให้เกิดการหลั่ง "น้ำหล่อลื่น" ออกมามากขึ้นได้
ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของร่างกาย
เพื่อรักษาความชุ่มชื้นและป้องกันการติดเชื้อใน "ช่องคลอด"
[ 4 ] การติดเชื้อใน "ช่องคลอด"
การติดเชื้อใน "ช่องคลอด" เช่น การติดเชื้อรา (ํYeast Infection) หรือแบคทีเรีย
อาจทำให้มี "น้ำหล่อลื่น" มากเกินไป หรือ "น้ำหล่อลื่น" มีสีหรือกลิ่นผิดปกติ
เช่น "น้ำหล่อลื่น" มีลักษณะเหนียว มีกลิ่นเหม็น
มีอาการคันหรือปวดในบริเวณ "อวัยวะเพศ"
เป็นสัญญาณที่ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างถูกต้อง
[ 5 ] การใช้ผลิตภัณฑ์สุขอนามัย
ผลิตภัณฑ์ เช่น สบู่ที่มีส่วนผสมของสารเคมีแรงๆ หรือการใช้น้ำยาล้างช่องคลอด
อาจทำให้เกิดความชุ่มชื้นมากขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงสมดุลธรรมชาติของจุลชีพใน "ช่องคลอด"
ทำให้ร่างกายผลิต "น้ำหล่อลื่น" มากกว่าปกติ
"จิ๋มแฉะ"