"หนองในแท้" ( "Gonorrhea" )
สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า "Neisseria Gonorrhoeae"
ซึ่งแพร่ผ่านการมี "เพศสัมพันธ์" จาก "น้ำอสุจิ" และ "น้ำในช่องคลอด" เป็นหลัก
หรือแพร่จากการสัมผัสเชื้อโดยตรง
เช่น การแพร่จากมารดาที่ติดเชื้อสู่ทารกผ่านการคลอดทางช่องคลอด
ทำให้เยื่อบุตาเกิดการติดเชื้อได้
อาการ
ในเพศชายร้อยละ 10 และผู้หญิงร้อยละ 50 จะไม่แสดงอาการ
ในกรณีที่มีอาการแสดงจะเริ่มแสดงเมื่อได้รับเชื้อไปแล้ว 1-14 วัน
ซึ่งอาการแสดงจะแตกต่างกันในแต่ละเพศ คือ
- เพศชาย: พบหนองไหลออกมาจากท่อปัสสาวะ ปัสสาวะแสบขัด
ในบางรายอาจมีลูกอัณฑะอักเสบ หรือเป็นฝีที่บริเวณอวัยวะเพศ
- เพศหญิง: พบตกขาวผิดปกติ ไม่คัน ปากมดลูกอักเสบ
หรือมีโรค "หนองในเทียม" ร่วมด้วย "หนองที่ปากมดลูก"
นอกจากนี้ยังสามารถพบ "หนองในแท้" ที่เยื่อบุตาได้ โดยมีอาการแสดง
เช่น ตาแดงมาก เปลือกตาบวม ปวดตา ตามัวลง มีขี้ตาหรือน้ำหนองไหลออกจากตาตลอดเวลา
กดเจ็บที่ดวงตา ซึ่งสามารถเกิดที่ตาข้างเดียวหรือทั้งสองข้างก็ได้
ในบางรายอาจพบเลือดออกใต้เยื่อบุตาขาว ( "Subconjunctival Hemorrhage" )
การรักษาแบ่งเป็น 2 ประเภทตามอวัยวะที่ติดเชื้อ
1. "หนองในแท้" ที่ "อวัยวะเพศ" คอและทวารหนัก
ทั้งนี้แนะนำให้รักษา "หนองในเทียม" ร่วมด้วย
เนื่องจากประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ป่วยโรค "หนองใน" มักมีการติดเชื้อ "หนองในเทียม" ร่วมด้วย
แต่กรณีที่ได้รับ "Azithromycin" ไม่จำเป็นต้องเพิ่มยารักษาโรค "หนองในเทียม" อีก
2. "หนองในแท้" ที่เยื่อบุตา และเช่นเดียวกับ "หนองในแท้" ที่ "อวัยวะเพศ" คอและทวารหนัก
แนะนำให้การรักษาโรค "หนองในเทียม" ร่วมด้วย
นอกจากนี้ยังแนะนำให้ทำการล้างตาด้วยน้ำเกลือที่ปราศจากเชื้อบ่อย ๆ
เมื่อมีขี้ตาจำนวนมาก หากอาการไม่ดีขึ้นให้ปรึกษาจักษุแพทย์
ประเด็นน่าสนใจอื่น ๆ
- คู่นอนที่มี "เพศสัมพันธ์" ภายใน 60 วัน ควรได้รับการรักษาเช่นเดียวกับผู้ป่วย
- หญิงตั้งครรภ์/ให้นมบุตร แนะนำ "Ceftriaxone" 1 g ฉีดเข้ากล้ามเนื้อครั้งเดียว
- การติดเชื้อ "หนองในแท้" ในทารกแรกเกิด มักพบที่บริเวณเยื่อบุตาเป็นหลักจากการติดเชื้อทาง "ช่องคลอด"
ยาที่ใช้รักษา คือ "Ceftriaxone" 25-50 mg/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม (ไม่เกิน 250 mg)
ฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อหรือให้ยาทางหลอดเลือดดำครั้งเดียว